EP.24 ประเภทคำสั่ง และ การเปิดออเดอร์ MT4
ประเภทคำสั่ง และ การเปิดออเดอร์ MT4 : เรามาดูกันที่ประเภทคำสั่งกันก่อนครับ ว่ามีแบบไหนบ้าง และแต่ละแบบนั้นเป็นอย่างไรกันบ้าง
คำสั่งที่ใช้ในการเปิดออเดอร์ทั้งหมดจะมี 6 คำสั่ง โดยจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก
Market Execution (ราคาตลาด) : เป็นการเปิดออเดอร์ด้วยราคาตลาด ณ เวลานั้นๆ มี 2 คำสั่ง
Pending Order (คำสั่งล่วงหน้า) : เป็นการส่งคำสั่งล่วงหน้า ด้วยการกำหนดราคาที่เราต้องการจะเปิดออเดอร์ มี 4 คำสั่ง
Market Execution
- Buy by Market : ใช้สำหรับเปิดออเดอร์ “Buy”
- Sell by Market : ใช้สำหรับเปิดออเดอร์ “Sell”
Pending Order
- Buy Limit : ใช้กรณีที่ราคาปัจจุบันอยู่เหนือราคาที่ต้องการเปิดออเดอร์ โดยมีหลักการ คือ หากเราวิเคราะห์ว่า ถ้าราคาลงมาที่แนวราคาด้านล่างตรงเส้นสีน้ำเงินตามรูป แล้วราคาจะเด้งกลับขึ้นไป เราจะเปิดออเดอร์ “Buy” ที่แนวราคานี้ จึงต้องใช้คำสั่ง “Buy Limit”
- Sell Limit : ใช้กรณีที่ราคาปัจจุบันอยู่ต่ำกว่าราคาที่ต้องการเปิดออเดอร์ โดยมีหลักการ คือ หากเราวิเคราะห์ว่า ถ้าราคาขึ้นไปที่แนวราคาด้านบนตรงเส้นสีน้ำเงินตามรูป แล้วราคาจะเด้งกลับลงมา เราจะเปิดออเดอร์ “Sell” ที่แนวราคานี้ จึงต้องใช้คำสั่ง “Sell Limit”
- Buy Stop : ใช้กรณีที่ราคาปัจจุบันอยู่ต่ำกว่าราคาที่ต้องการเปิดออเดอร์ โดยมีหลักการ คือ หากเราวิเคราะห์ว่า ถ้าราคาขึ้นไปที่แนวราคาด้านบนตรงเส้นสีน้ำเงินตามรูป แล้วราคาจะทะลุผ่านแนวนี้ขึ้นไปต่อ เราจะเปิดออเดอร์ “Buy” ที่แนวราคานี้ จึงต้องใช้คำสั่ง “Buy Stop”
- Sell Stop : ใช้กรณีที่ราคาปัจจุบันอยู่เหนือราคาที่ต้องการเปิดออเดอร์ โดยมีหลักการ คือ หากเราวิเคราะห์ว่า ถ้าราคาลงมาที่แนวราคาด้านล่างตรงเส้นสีน้ำเงินตามรูป แล้วราคาจะทะลุผ่านแนวนี้ลงไปต่อ เราจะเปิดออเดอร์ “Sell” ที่แนวราคานี้ จึงต้องใช้คำสั่ง “Sell Stop”
ผมเชื่อว่าคำสั่งประเภท “Market Execution” มือใหม่หลายคนคงจะเข้าใจไม่ยาก แต่อาจจะสับสนกับคำสั่งประเภท “Pending Order” อยู่บ้าง ลองทำความเข้าใจจากคำอธิบายด้านบนพร้อมกับดูภาพประกอบจะช่วยให้เข้าใจได้ง่ายขึ้นครับ
ต่อมาเรามาดู
วิธีใช้คำสั่งเปิดออเดอร์บน MT4 ว่าทำอย่างไร
การเรียกเมนูเปิดออเดอร์ขึ้นมานั้นมาหลายช่องทาง ผมขอเลือกช่องทางง่ายๆ คือ เมนู “New Order” ที่เป็น icon ตรงแถบด้านบนนะครับ
เมื่อเรากดปุ่ม “New Order” ก็จะมีหน้าต่าง “Order” ขึ้นมาตามรูป
หัวข้อ “Symbol” คือ “คู่เงิน” ที่เราจะเปิดออเดอร์ ปกติถ้าเราเปิดกราฟไหนอยู่ มันจะเลือกคู่เงินนั้นขึ้นมา ยังไงก็ตรวจสอบให้ถูกต้องอีกทีก่อนเปิดคำสั่งด้วยนะครับ จะได้ไม่เปิดออเดอร์ผิดคู่เงิน
หัวข้อ “Volume” คือ ขนาดของ “Lots” ที่เราต้องการจะเปิดออเดอร์ เราใส่ขนาด Lots ตามที่เราต้องการเปิดออเดอร์ตรงช่องนี้
หัวข้อ “Stop Loss” คือ “ราคา Stoploss” สามารถคีย์ราคาที่จะตั้ง Stoploss ตรงช่องนี้ได้เลย หรือ หากลืมใส่ราคาตอนเปิดออเดอร์ สามารถ Modify ทีหลังได้
หัวข้อ “Take Profit” คือ “ราคา Take Profit” สามารถคีย์ราคาที่จะตั้ง Take profit ตรงช่องนี้ได้เลย หรือ หากลืมใส่ราคาตอนเปิดออเดอร์ สามารถ Modify ทีหลังได้
หัวข้อ “Comment” คือ ช่องสำหรับให้เราเขียน “Comment” เพื่อไว้ Tracking ออเดอร์ แนะนำให้พยายามใส่ทุกครั้งที่เปิดออเดอร์ว่าออเดอร์นี้เปิดด้วยกลยุทธ์อะไร เพื่อใช้วิเคราะห์กลยุทธ์หรือผลงานการเทรดของตัวเอง หรือจะเป็นการ Recheck ตัวเองไปในตัวว่าเราทำตามระบบที่วางไว้หรือไม่ก็ได้
หัวข้อ “Type” คือ “ประเภทออเดอร์” ถ้าเลือกเป็น “Market Execution” เป็นการเปิดออเดอร์ทันทีด้วยราคาตลาด ณ ปัจจุบัน ถ้าต้องการเปิดออเดอร์ “Sell”กดปุ่มสีแดงด้านล่าง “Sell by Market” และถ้าต้องการเปิดออเดอร์ “Buy” กดปุ่มสีน้ำเงิน “Buy by Market”
ส่วนถ้าเราต้องการเปิด “Pending Order” ก็ให้เลือก “Pending Order” ตรงด้านล่างก็จะเปลี่ยนมาเป็นเมนูสำหรับ Pending Order เลือกประเภทของออเดอร์ที่ต้องการจะ Pending ตรงหัวข้อ “Type”
คีย์ราคาที่ต้องการวาง Pending Order ที่ช่อง “at price”
ถ้าต้องการยกเลิกออเดอร์ Pending เมื่อถึงเวลาที่กำหนดก็ติ๊ก “Expiry” แล้วตั้งวันเวลาที่ต้องการ
เมื่อตั้งค่าทั้งหมดครบแล้วกดปุ่ม “Place” เพื่อเปิด Pending Order
เอาล่ะตอนนี้เราก็ได้รู้ ประเภทคำสั่ง และ การเปิดออเดอร์ MT4 กันไปแล้ว สำหรับมือใหม่ลองใช้บีญชีเดโม่เปิดคำสั่งต่างๆ เพื่อฝึกให้คล่องและให้เข้าใจการใช้คำสั่งประเภท Pending Order กันดูนะครับ ถ้ายังจำไม่ได้ว่า Pending Order คำสั่งไหนใช้กรณีแบบไหน ลองย้อนกลับไปอีกครั้งด้านบนได้เลยนะครับ
เลือกอ่านบทความอื่นๆ คลิ๊กที่นี่
เลือกโบรกเกอร์จากการจัดอันดับเพื่อเปิดบัญชีเทรด คลิ๊กที่นี่
ช่องทางติดต่อเรา
Facebook : https://www.facebook.com/brokerforexreview
E-Mail : brokerforexreview.com@gmail.com