บัญชี ECN คืออะไร ECN ย่อมาจากคำว่า ” Electronic Communications Network “ ถ้าแปลตรงตัว ก็คือ เครือข่ายการสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ แต่หลายท่านอาจจะงงว่าแล้วมันเป็นยังไง เกี่ยวอะไรกับบัญชี เทรด Forex กัน
เพื่อให้เข้าใจง่าย บัญชี ECN คือ บัญชีที่ช่วยให้คุณสามารถส่งคำสั่งซื้อขาย เข้ากับตลาดส่วนกลางโดยตรง ไม่มีการเก็บข้อมูลคำสั่งซื้อขายของเทรดเดอร์เข้ามาที่โบรกเกอร์ก่อนส่งคำสั่งออกไปยังส่วนกลาง ส่งผลให้การส่งคำสั่งซื้อขายสามารถทำได้อย่างรวดเร็ว ไม่เกิดอาการรีโควต และมีความยืดหยุ่นในการทำกำไรมากกว่าบัญชีประเภทอื่นๆ
ข้อดีของ บัญชี ECN
1. ความเร็วในการส่งคำสั่งซื้อขาย : เนื่องจากบัญชีประเภท ECN มีการส่งคำสั่งซื้อขาย เข้ากับตลาดส่วนกลางโดยตรง ไม่ผ่านตัวกลางคือโบรกเกอร์ ทำให้การส่งคำสั่งซื้อขาย สามารถทำได้อย่างรวดเร็วนั่นเอง จึงสามารถตอบสนองความต้องการของเทรดเดอร์ที่ใช้กลยุทธ์การเทรดแนว Scalping ที่จะต้องมีการเปิดปิดคำสั่งซื้อขายด้วยความรวดเร็วได้เป็นอย่างดี
2. ไม่มีอาการรีโควท (Requotes) : อาการดังกล่าว คือ การที่เราส่งคำสั่งซื้อขายไปแล้ว แต่ระบบไม่สามารถเปิดคำสั่งซื้อขายตรงราคาที่เราต้องการออกไปได้ ซึ่งอาจส่งผลให้แทนที่เราจะมีกำไร อาจกลับกลายเป็นขาดทุนก็ได้ ซึ่งอาการรีโควท (Requotes) อาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของราคาที่รวดเร็ว เช่น ช่วงประกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สำคัญ และมีผลต่อคู่สกุลเงินนั้นๆโดยตรง จึงทำให้ประเภทบัญชีที่โบรกเกอร์รับคำสั่งซื้อขายของเทรดเดอร์เอาไว้ก่อนส่งเข้าตลาดส่วนกลางทำไม่ทัน ส่งผลให้เกิดอาการรีโควท (Requotes) ขึ้นได้
3. สามารถได้ราคาใกล้เคียงกับราคาตลาดจริง : จากการที่ บัญชี ECN ส่งคำสั่งซื้อขายของเทรดเดอร์เข้าตลาดโดยตรง ทำให้การซื้อขายที่เกิดขึ้นรวดเร็ว ราคาที่เราได้นั้นจึงใกล้เคียงกับราคาตลาดจริง
4. ค่าสเปรด (Spread) ต่ำ : บัญชี ECN โดยทั่วไปของหลายๆโบรกเกอร์ จะมีค่าสเปรด (Spread) ที่ต่ำมาก โดยจะเริ่มต้นจาก 0.0 Pips จึงทำให้เราได้เปรียบในการทำกำไรมากขึ้น และลดความเสี่ยง อันเนื่องมาจากการแกว่งตัวของค่าสเปรด (Spread) ได้มากกว่า บัญชีเทรดแบบทั่วๆไป
ข้อจำกัดของ บัญชี ECN
1. เงินทุนในการเปิดบัญชีค่อนข้างสูง : การฝากเงินเข้าบัญชีเทรดขั้นต่ำค่อนข้างสูงหน่อย แต่ปัจจุบันก็ไม่ได้สูงมากอย่างในอดีต ซึ่งโดยทั่วไปจะใช้เงินขั้นต่ำประมาณ 500 USD ข้อกำหนดวงเงินขั้นต่ำในการเปิดบัญชี ECN ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละโบรกเกอร์ จึงเหมาะสำหรับนักลงทุนที่มีเงินลงทุนสูงหน่อย
2. มีค่าคอมมิชชั่น (Commission) ในการเทรด : แม้ว่าบัญชี ECN จะมีค่าสเปรด (Spread) ที่ต่ำมากๆก็จริง แต่ทุกการเทรดนั้นจะต้องเสียค่าคอมมิชชั่น (Commission) ให้กับโบรกเกอร์ด้วยเช่นกัน เป็นค่าธรรมเนียมการให้บริการของโบรกเกอร์ ดังนั้นเราควรนำค่าคอมมิชชั่น (Commission) ตรงนี้มาพิจารณาในการเลือกโบรกเกอร์ด้วยเช่นกัน เพื่อให้ได้ต้นทุนในการเทรดที่ถูกจริงๆ
3. เหมาะกับเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์หรือมืออาชีพ : เพราะการเทรดด้วยบัญชี ECN นั้นจะมีผลมาก หากเป็นการเทรดด้วยเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์หรือมืออาชีพ ที่มีความเชี่ยวชาญในการอ่านค่าและการใช้เครื่องมือเป็นอย่างดี ซึ่งหมายความว่าหากเป็นการเทรดแบบเล่นๆ รับรองว่าคุณจะไม่สามารถทำกำไรจากตลาด Forex ได้อย่างแน่นอน
บทสรุป : เมื่อเราได้รู้กันไปแล้วว่า บัญชี ECN คืออะไร การเลือกประเภทบัญชีที่จะใช้สำหรับเทรด Forex นั้น จะต้องสอดคล้องและเหมาะสมกับความต้องการของแต่ละคนเป็นสำคัญ เช่น เงินทุน กลยุทธ์ในการเทรด เป็นต้น เพื่อให้เราได้เปรียบมากที่สุดในการเทรด มิฉะนั้นหากเลือกประเภทบัญชีไม่เหมาะสม แทนที่จะได้เปรียบในการเทรด อาจกลับกลายเป็นเสียเปรียบแทนก็ได้
โบรกเกอร์ที่มี บัญชี ECN ให้บริการมีดังนี้
1. Exness : เปิดบัญชี ECN กับ Exness คลิ๊ก
อ่าน รีวิว โบรกเกอร์ Exness คลิ๊ก
2. Fullerton Markets : เปิดบัญชี ECN กับ Fullerton Markets คลิ๊ก
อ่าน รีวิว โบรกเกอร์ Fullerton Markets คลิ๊ก
3. FXTM : เปิดบัญชี ECN กับ FXTM คลิ๊ก
อ่าน รีวิว โบรกเกอร์ FXTM คลิ๊ก
4. RoboForex : เปิดบัญชี ECN กับ RoboForex คลิ๊ก
อ่าน รีวิว โบรกเกอร์ RoboForex คลิ๊ก
5. Vantage FX : เปิดบัญชี ECN กับ Vantage FX คลิ๊ก
อ่าน รีวิว โบรกเกอร์ Vantage FX คลิ๊ก